tag:blogger.com,1999:blog-75717067332817652792024-02-20T16:22:27.226-08:00หน่วยการเรียนรู้ที่ 8dechkampolhttp://www.blogger.com/profile/16006621430695847305noreply@blogger.comBlogger1125tag:blogger.com,1999:blog-7571706733281765279.post-72976999399797591532011-09-19T01:07:00.001-07:002011-10-07T10:49:38.794-07:00หน่วยการเรียนรู้ที่ 8 การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศนำเสนอผลงาน<span style="font-size: large;"><strong>1.หลักการนำเสนอผลงาน</strong></span><br />
ในหน่วยการเรียนรู้ก่อนๆ ผู้เรียนได้เรียนรู้วิธีการใช้คอมพิวเตอร์ในการสร้างผลงานรูปแบบต่าง ๆ มาบ้างแล้ว การ สร้างผลงานที่ดีนั้นต้องอาศัยความรู้และทักษะตลอดจนความคิดสร้างสรรค์ แต่ที่สำคัญที่สุดคือการสะสมประสบการณ์จากการที่ได้พบเห็นตัวอย่างและเรียน รู้จากตัวอย่างในหน่วยการเรียนรู้นี้ จะกล่าวถึงการนำเสนอผลงานโดยใช้โปรแกรมสำเร็จรูปที่หาได้ทั่วไป การนำเสนอผลงานมีวัตถุประสงค์คือ<br />
<br />
1. ให้ผู้ชมเข้าใจสาระสำคัญของการนำเสนอ<br />
2. ให้ผู้ชมเกิดความประทับใจ ซึ่งจะนำไปสู่ความเชื่อถือในผลงานที่นำเสนอ<br />
<br />
กานำเสนอผลงานโดยใช้สื่อโสตทัศนศึกษานั้น มีเหตุผลเบื้นองลึก คือ หลักจิตวิทยการเรียนรู้ ซึ่งได้มีการค้นพบจากนักวิจัยว่า การรับรู้ข้อมูลโดยผ่านทางประสาทสัมผัสสองอย่างคือ ทั้งตาและหูพร้อมกันนั้น ทำให้เกิดการรับรู้ที่ดีกว่า รวมทั้งเกิดความสามารถในการจดจำได้มากกว่าการรับรู้โดยผ่านตาหรือหูอย่างใด อย่างหนึ่งเพียงอย่างเดียว จึงได้มีการพัฒนาสื่อโสตทัศนศึกษารูปแบบต่าง ๆ ขึ้นมาใช้งาน<br />
<br />
<strong>หลักการขั้นพื้นฐานของการนำเสนอผลงานมีจุดเน้นสำคัญคือ</strong><br />
<br />
1.1 การดึงดูดความสนใจ โดยการออกแบบให้สิ่งที่ปรากฏต่อสายตานั้นชวนมอง และมีความสบายตาสบายใจเมื่อมอง ดังนั้นการเลือกองค์ประกอบต่าง ๆ เช่น สีพื้น แบบ สีและ ขนาดของตัวอักษร<br />
รูปประกอบ ฯลฯ ต้องคำนึงถึงเรื่องนี้<br />
1.2 ความชัดเจนและความกระชับของเนื้อหา ส่วนที่เป็นข้อความต้องสั้นแต่ได้ใจความชัดเจน ส่วนที่เป็นภาพประกอบต้องมีส่วนสัมผัสอย่างสร้างสรรค์กับข้อความที่ต้องการ สื่อความหมาย การใช้ภาพประกอบมีประโยชน์มากดังคำพังเพยภาษาอังกฤษที่ว่า “A picture is worth a words” หรือ “ภาพภาพหนึ่งที่มีค่าเทียบเท่าคำพูดหนึ่งพันคำ” แต่ประโยคนี้คงไม่เป็นความจริงหากภาพนั้นไม่มีความสัมพันธ์อย่างสร้างสรรค์ กับความหมายที่ต้องการสื่อ ดังนั้น ก่อนที่จะตัดสินใจใช้ภาพใดประกอบ จึงควรตอบคำถามให้ได้เสียก่อนว่าต้องการใช้ภาพเพื่อสื่อความหมายอะไร และภาพที่จะเลือกมานั้นสามารถทำหน้าที่สื่อความหมายเช่นนั้นจริงหรือไม่<br />
1.3 ความเหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมาย การสร้างจุดเน้นต้องคำนึงถึงกลุ่มเป้าหมายด้วย เช่น กลุ่มหมายเป็นเด็กการใช้สีสด ๆ และภาพการ์ตูนมีความเหมาะสม แต่ถ้ากลุ่มเป้าหมายเป็นผู้ใหญ่และเนื้อหาที่นำเสนอเป็นเรื่องวิชาการหรือ ธุรกิจ การใช้สีสันมากเกินไปและการใช้รูปการ์ตูน อาจจะทำให้ดูไม่น่าเชื่อถือเพราะขาดภาพลักษณ์ของการเอาจริงเอาจังไป<br />
<br />
<span style="font-size: large;"><strong>2. เครื่องมือที่ใช้ในการนำเนอผลงาน</strong></span><br />
ก่อนยุคคอมพิวเตอร์ การนำเสนอผลงานในที่ประชุมสัมมนามักจะใช้เครื่องมือสองอย่างคือ เครื่องฉายสไลด์ (Slide projector) และเครื่องฉายแผ่นใส(Overheard projector) การ ใช้งานเครื่องฉายสไลด์ค่อนข้างยุ่งยาก เพราะต้องใช้กล้องถ่ายรูปใส่ฟิล์มพิเศษที่ล้างออกมาแล้วเป็นภาพสำหรับฉายโดย เฉพาะ และต้องนำฟิล์มนั้นมาตัดใส่กรอบพิเศษจึงจะนำมาเข้าเครื่องฉายได้ ข้อดีของการฉายสไลด์คือได้ภาพที่สวยงามและชัดเจนแต่ข้อเสียคือต้องฉายในห้อง ที่มืดมาก เครื่องฉายแผ่นใสเป็นเครื่องที่ใช้งานทั่วไปได้มากกว่า แผ่นใสที่ใช้ตามปกติมีขนาดประมาณ 8 นิ้วคูณ 10 นิ้ว มีสองแบบคือแบบใช้ปากกา(พิเศษ)เขียน กับแบบที่ใช้เครื่องถ่ายเอกสาร แผ่นใสแบบใช้กับเครื่องถ่ายเอกสารใช้เขียนได้แต่แบบเขียนใช้กับเครื่องถ่าย เอกสารไม่ได้เพราะแผ่นใสจะละลายติดเครื่องถ่ายเอกสารทำให้เครื่องเสียเวลา ซื้อแผ่นใสจึงต้องใช้ความระมัดระวังดูให้ดีว่าเป็นชนิดที่ตรงกับความต้องการ หรือไม่ การฉายแผ่นใสสามารถทำได้ในห้องที่ไม่ต้องมืดมาก<br />
เมื่อมาถึงยุคคอมพิวเตอร์ เครื่องมือที่ใช้นำเสนอผลงานก็เปลี่ยนไป เครื่องมือหลัก คือเครื่องคอมพิวเตอร์และเครื่องฉายภาพจากคอมพิวเตอร์ (Data projector) เครื่อง ฉายภาพคอมพิวเตอร์รุ่นแรก ๆ มีขนาดใหญ่ต้องติดตั้งประจำที่ ข้างในมีหลอดภาพ 3 หลอด ทำให้เกิดภาพแต่ละสีฉายผ่านเลนส์ออกมาปรากฏภาพบนหน้าจอ ความคมชัดยังไม่ดีนักและความสว่างของภาพก็ไม่มากพอ ทำให้ต้องฉายในห้องที่ค่อนข้างมืด เครื่องฉายรุ่นใหม่ได้แก้ไขจุดอ่อนเหล่านี้ได้หมดแล้ว โดยใช้แผ่นผลึกเหลว (Liquid Crystal Display หรือ LCD) เป็นตัวสร้างภาพ ทำให้เครื่องมีขนาดเล็กลงมาจนสามารถพกพาได้ อีกทั้งความสว่างและความคมชัดก็ดีขึ้นมากจนสามารถฉายในห้องที่มีแสงสว่าง ปานกลางได้<br />
<br />
<br />
<div style="text-align: center;"><a href="http://dechkampol.blogspot.com/"><span style="font-family: Arial; font-size: large;">( HOME )</span></a><span style="font-family: Arial; font-size: large;"> </span><a href="http://dechkampol07.blogspot.com/"><span style="font-family: Arial; font-size: large;">< ก่อนหน้า</span></a><span style="font-family: Arial; font-size: large;"> </span><a href="http://dechkampol01.blogspot.com/"><span style="font-family: Arial; font-size: large;">1</span></a><span style="font-family: Arial; font-size: large;"> </span><a href="http://dechkampol02.blogspot.com/"><span style="font-family: Arial; font-size: large;">2</span></a><span style="font-family: Arial; font-size: large;"> </span><a href="http://dechkampol03.blogspot.com/"><span style="font-family: Arial; font-size: large;">3</span></a><span style="font-family: Arial; font-size: large;"> </span><a href="http://dechkampol04.blogspot.com/"><span style="font-family: Arial; font-size: large;">4</span></a><span style="font-family: Arial; font-size: large;"> </span><a href="http://dechkampol05.blogspot.com/"><span style="font-family: Arial; font-size: large;">5</span></a><span style="font-family: Arial; font-size: large;"> </span><a href="http://dechkampol06.blogspot.com/"><span style="font-family: Arial; font-size: large;">6</span></a><span style="font-family: Arial; font-size: large;"> </span><a href="http://dechkampol07.blogspot.com/"><span style="font-family: Arial; font-size: large;">7</span></a><span style="font-family: Arial; font-size: large;"> </span><a href="http://dechkampol08.blogspot.com/"><span style="font-family: Arial; font-size: large;">8</span></a><span style="font-family: Arial; font-size: large;"> </span><a href="http://dechkampol08.blogspot.com/"><span style="font-family: Arial; font-size: large;">ถัดไป ></span></a><span style="font-family: Arial;"> </span></div>dechkampolhttp://www.blogger.com/profile/16006621430695847305noreply@blogger.com0